ในปัจจุบันสไตล์การตกแต่งบ้านด้วยพืชพรรณสีเขียวนั้นยังคงเป็นที่นิยมอยู่เสมอ เพราะพืชพรรณสีเขียวคือองค์ประกอบธรรมชาติที่ช่วยเยียวยาจิตใจและสร้างความสดชื่นให้แก่เราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพืชพรรณที่ปลูกบริเวณสวนของบ้านเพื่อความร่มรื่น มอบอากาศบริสุทธิ์และให้ร่มเงา รวมไปถึงพืชพรรณไม้ดอกไม้ประดับที่มีสีสันและทรงพุ่มสวยงามซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่แลดูสุนทรีย์ให้แก่บ้านของเรา
นอกเหนือไปจากพืชพรรณที่เราๆท่านๆนิยมปลูกที่บริเวณรอบบ้านแล้ว ยังมีพืชพรรณอีกมากมายที่เป็นที่นิยมในการปลูกเพื่อสร้างบรรยากาศธรรมชาาติที่สดใส หนึ่งในนั้นคือพืชพรรณที่ปลูกภายในที่ร่มหรือแม้แต่เป็นพืชพรรณไม้ที่นิยมเหมาะสมสำหรับปลูกในบ้าน ซึ่งต่างก็มีหลากหลายสายพันธุ์ที่นักออกแบบภายในและภูมิสถาปนิกนิยมเลือกใช้และแนะนำให้แก่เจ้าของบ้าน โดยเฉพาะเจ้าบ้านที่มีพื้นที่บ้านจำกัดไม่ม่ีบริเวณกว้างขวางสำหรับไม้ใหญ่ หรือเจ้าบ้านที่อาศัยอยู่ภายในคอนโดมิเนียมซึ่งขาดแคลนพื้นที่สีเขียว เป็นต้น
ในวันนี้ Homify ขอนำเสอนไอเดียบุคเอาใจคุณเจ้าบ้านที่ชื่นชอบพการปลูกต้นไม้และชื่นชอบพรรณไม้ประดับสำหรับปลูกภายในบ้าน ด้วยแนวคิดและข้อควรรู้สำหรับการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ ไม้ดอกเมืองร้อนที่มีสีสันและความสวยงามที่หลากหลายตามสายพันธุ์ เป็นหนึ่งในพรรณไม้ที่เป็นที่นิยมในการตกแต่งบ้านแถมยังทำให้บ้าแลดูสวยดูดีมีราคาอย่างยิ่ง คุณผู้อ่านหรือเจ้าบ้านท่านไหนกำลังมองหาข้อมูลการดูแลกล้วยไม้หรือไอเดียการนำไปใช้กับการตกแต่งสร้างความสดชื่นให้แก่บ้านคุณ ต้องห้ามพลาดไอเดียบุคนี้ ว่าแล้วเราก็ไปเริ่มกันเลย
กล้วยไม้เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวชนิดหนึ่งซึ่งนับว่ามีความหลากหลายทางสายพันธุ์มากเป็นอันดับต้นๆของสิ่งมีชีวิต โดยมีมากถึง 30,000 ชนิด จากทั้งหมด 300,000 สายพันธุ์ โดยลักษณะของสายพันธุ์กล้วยไม้นั้นสามารถแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆได้อยู่ 2 ประเภทได้แก่
1. กล้วยไม้อิงอาศัย คือกล้วยไม้ชนิดที่เกาะอิงอาศัยกับพืชหรือต้นไม้ใหญ่ ซึ่งจะมีรากชอนไชไปตามเปลือกไม้เพื่อดูดซึมอาหารและน้ำ
2. กล้วยไม้ดิน คือกล้วยไม้ชนิดที่มีการเจริญเติบโตบนพื้นดินหรือตามโขดหินของห้วยและลำธาร โดยสายพันธุ์กล้วยไม้ชนิดนี้จะมีหัวลำต้นใต้ดินเป็นแหล่งสะสมอาหาร
เนื่องจากกล้วยไม้เป็นพืชดอกที่มีหลากหลายสายพันธุ์ ดังนั้นแล้วในแต่ละสายพันธุ์เองก็ต้องการการดูแลรักษาและการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไป ตามชนิดที่เจ้าบ้านและนักออกแบบนำมาเพาะเลี้ยงและใช้ในการประดับตกแต่งสร้างความสวยงามให้แก่บ้าน
ทั้งนี้ในบรรดาสายพันธุ์ของกล้วยไม้ที่มีมากมายนั้น มีอยู่ 10 สายพันธุ์ที่นิยมนำมาใช้กับการตกแต่งและเพาะเลี้ยง มีดังนี้
1. กล้วยไม้สกุลหวาย : ราคากลางทั่วไปในท้องตลาด ถ้าเป็นหวายแคระ ราคา 30 -50 บาท/กระถาง ถ้าเป็นหวายทั่วไปราคา 50 -120 บาท/กอ (ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาดของกอนั้นๆ)
2. กล้วยไม้สกุลคัทลียา : เป็นที่นิยมมากเนื่องจากให้ดอกสีสันสวยสดและมีดอกใหญ่ และบางชนิดก็มีกลิ่นหอม ราคาทั่วไป 150 – 250 บาท
3. กล้วยไม้สกุลเข็ม : ออกดอกเมื่อมีการดูแลอย่างอุดมสมบูรณ์หรือสม่ำเสมอ มีน้ำและปุ๋ยเพียงพอ ราคาจะอยู่ที่ 150-250 บาท
4. กล้วยไม้ลูกผสมเข็มกับแวนด้า : เป็นชนิดกล้วยไม้ที่เลี้ยงได้ง่าย ออกดอกสม่ำเสมอตลอดปี และมีหลากสีสัน ราคาอยู่ที่ต้นละ 150 – 200 บาท
5. กล้วยไม้ฟาแลนนอปซิส : มีดอกสวย กลีบดอกทนทาน แต่เลี้ยงยุ่งยากเพราะต้องการอากาศเย็น มีใบที่บางซึ่งหากโดนฝนอาจจะเกิดการเน่า ต้องฉีดยากันเชื้อราอย่างสม่ำเสมอ ราคาจะอยู่ที่ 300 – 1,000 บาท ต่อกระถาง
6. กล้วยไม้ซิมบิเดียม : เป็นสายพันธุ์ที่มีดอกและรูปใบสวย จัดเป็นพันธุ์กล้วยไม้ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ทั้งนี้บางชนิดไม่สามารถให้ดอกได้ในอากาศร้อนภาคกลาง ดังนั้นก่อนทำการเลือกซื้อควรสอบถามเจ้าของร้านขายพรรณไม้หรือผู้ปลูกก่อนเพื่อความเหมาะสมของการเลี้ยงดู ราคาจะอยู่ที่ตั้งแต่ 500-2,000 บาท ต่อชนิดหรือขนาดของกอ
7. กล้วยไม้รองเท้านารี : จัดเป็นกล้วยไม้ดอกสวยที่เพาะเลี้ยงและดูแลรักษาได้ยาก เพราะบางชนิดต้องการอากาศเย็นและใบอาจเน่าได้หากได้รับความชื้นมากเกินไปซึ่งจะต้องให้ยากำจัดเชื้อรา แต่บางชนิดก็เลี้ยงง่ายเช่น เหลืองปราจีน กล้วยไม้ชนิดนี้เวลาให้ดอกแล้วจะดูโดดเด่นมากและมีหลากหลายสายพันธุ์ มีลูกผสมมากมาย ราคาขายพร้อมดอก 300 -1,000 บาท/กระถาง
8. กล้วยไม้พันธุ์สิงโต : เป็นสายพันธุ์ที่เลี้ยงและดูแลง่าย ลักษณะนิสัยชอบความชื้นจึงเหมาะกับภูมิอากาศของไทย ดอกมีลักษณะแปลกและหลากหลายรูปทรง ราคา 150 – 500 บาท/กระถาง
9. กล้วยไม้ดิน : การดูแลและปลูกเลี้ยงสามารถทำได้ง่าย มีหลากหลายรูปใบและดอกที่ต่างกันไปซึ่งจะออกดอกตามฤดูกาล โดยทั่วไปจะหาซื้อได้ยากแต่ราคาไม่แพง ราคา 150 – 300 บาท/กระถาง
10. กล้วยไม้ป่า : เป็นชนิดของกล้วยไม้ที่ก่อนเลือกซื้อต้องดูชนิดของต้นเพราะบางชนิดเมื่อเลี้ยงในระยะแรกมักจะตายได้ง่าย ควรเลือกซื้อต้นที่มีดอกและต้องมีรากอยู่แล้ว ราคาจะอยู่ 200 – 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับชนิด ขนาดและความสวยงาม
ทั้งนี้นักออกแบบและภูมิสถาปนิกหรือนักจัดสวนมักจะนิยมแนะนำเลือกใช้กล้วยไม้สายพันธุ์ผีเสื้อ (Moth Orchid) และ กล้วยไม้คัทลียา (Cathleeya Orchid) ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่เป็นที่นิยมของนักเพาะเลี้ยง เนื่องจากสามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่ร่ม ให้ดอกสวยงามและไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาที่วุ่นวายยุ่งยากนัก โดยการหาซื้อสามารถซื้อได้จากร้านขายต้นไม้ พืชชพรรณไม้ประดับหรือโรงเพาะชำกล้วยไม้ทั่วไปในราคาที่ไม่แพงมากนัก
ต้องเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อต้นกล้วยไม้เลย
เทคนิคแรกที่คุณเจ้าบ้านควรรู้คือในขั้นตอนการเลือกซื้อต้นกล้วยไม้มาเลี้ยงนั้น ควรเลือกต้นที่ออกดอกแล้ว และมีใบกับรากสมบูรณ์ไม่ขาดแหว่งหรือมีเชื้อรา และชนิดของกล้วยไม้แต่ละสายพันธุ์ซึ่งมีลักษณะนิสัยการเจริญเติบโตที่ต่างกันก็ต้องทราบก่อนด้วย เช่นบางชนิดชอบแสงมาก บางชนิดชอบความชื้น หรือบางชนิดไม่ถูกกับความชื้น เป็นต้น รวมถึงขนาดของลำต้นที่ไม่เล็กไม่ใหญ่มากนักเพื่อการดูแลรักษาที่เหมาะสมไม่ยุ่งยาก
กระถางที่ใช้ปลูกเลี้ยง
ส่วนของกระถางที่จะใช้ปลูกกเลี้ยงนั้น ควรเป็นชนิดที่สามารถระบายน้ำได้แต่ก็ควรกักเก็บความชื้นได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงอาจเลือกใช้กระถางแบบเจาะรูทั้งด้านใต้หรือด้านข้าง และอาจใช้พีทมอส ไม้คอร์ก กาบมะพร้าว เพื่อช่วยกักเก็บความชื้นให้แก่ราก และตควรเลือกใช้ของสดใหม่ด้วย
ตำแหน่งที่ตั้งที่จะจัดวาง
อย่างที่เราบอกไปว่ากล้วยไม้แต่ละชนิดก็มีลักษณะนิสัยของการเจริญเติบโตที่ต่างกัน ดังนั้นการจัดวางตำแหน่งที่จะประดับตกแต่งก็สมควรจัดวางอย่างเหมาะสมกับชนิดของกล้วยไม้นั้นๆ ที่สำคัญคือต้องเป็นพื้นที่ที่แสงธรรมชาติสามารถส่องผ่านลงมาและมีอากาศที่ถ่ายเท เพื่อให้ใบสามารถผลิตอาหารได้ นอกจากนี้แล้วขนาดของลำต้นกล้วยไม้เมื่อมีการเจริญเติบโตก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์ บ้างก็โตเป็นพุ่มกอใหญ่ หรือบ้างก็ห้อยระย้า ดังนั้นพื้นที่ที่เราจะปลูกเลี้ยงจึงต้องสัมพันธ์กับขนาดของต้นกล้วยไม้ด้วย
การให้น้ำแก่ต้นกล้วยไม้
โดยทั่วไปแล้วนั้น กล้วยไม้จะสามารถแบ่งประเภทตามความต้องการความชื้นได้อยู่ 2 ประเภท ได้แก่ 1. กล้วยไม้ที่ชอบความชื้น กล่าวคือต้องอยู่ในที่ที่มีความชื้นแต่ไม่ใช่พื้นที่ที่เปียกแฉะเช่น ห้องน้ำในส่วนที่เป็นโซนแห้ง ห้องครัวหรือสวนหลังบ้าน และ 2. กล้วยไม้ที่ไม่ชอบความชื้น แต่ต้องการปริมาณน้ำที่เหมาะสมไม่ควรปล่อยทิ้งร้างให้ดินหรือใบแห้งผาก ทั้งนี้การให้น้ำก็ไม่ควรให้จนชุ่มเกินไป เพราะจะทำให้รากกล้วยไม้เน่าได้
แสงและอุณหภูมิห้อง
การจัดวางตำแหน่งของกระถางกล้วยไม้ที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชนั้น แน่นอนว่าต้องอยู่ในบริเวณที่ใบสามารถได้รับแสงอาทิตย์ได้ ถึงแม้จะชอบความสว่างแต่ก็ไม่ควรอยู่ในจุดที่ได้รับแดดจัดโดยตรงเพราะธรรมชาติของกล้วยไม้นั้นเป็นพืชที่ชอบอยู่ที่ร่มแดดรำไร ดังนั้นการจัดวางตำแหน่งกระถางอาจวางบริเวณริมหน้าต่างด้านทิศใต้หรือทิศตะวันออก ในส่วนของอุณหภูมิที่เหมาะสมนั้นส่วนมากจะอยู่ที่ 15 องศาเซลเซียส หากเป็นภูมิอากาศภายในบ้านเมืองไทยแล้วอาจใช้การฉีดสเปรย์พ่นละอองน้ำเพื่อสร้างความเย็นให้แก่กล้วยไม้ได้อีกทางหนึ่งด้วย
พื้นที่ห้องนั่งเล่นกับบรรยากาศสไตล์ทรอปิคอลภายนอก
ในส่วนของห้องนั่งเล่นของบ้านหลังนี้ที่มีแผงกระจกหน้าต่างบานใหญ่ที่มองออกไปภายนอกรายล้อมด้วยพืชพรรณใบเขียวสดตามแบบบ้านทรอปิคอล ส่วนพื้นที่ภายในที่บริเวณมุมห้องข้างโซฟาริมหน้าต่างก็มีการเลือกใช้กล้วยไม้ทรงพุ่มสูงที่ช่วยทอนบรรยากาศความกว้างของพื้นที่ให้อบอุ่นขึ้นและเติมสีสันสดใสตัดกับสีเขียวสดได้เป็นอย่างดี
พื้นที่ทานข้าวที่แลดูสดชื่นขึ้นเยอะ
ในส่วนของพื้นที่นั่งรับประทานอาหารหรือพื้นที่ทานข้าวซึ่งเป็นส่วนการใช้สอยที่ควรออกแบบให้มีความอบอุ่นเป็นพื้นที่สำหรับคนในครอบครัว การตกแต่งจึงมักเน้นใช้วัสดุสีธรรมชาติเช่นไม้ และจะเติมเต็มให้พื้นที่แลดูสดชื่นขึ้นได้ไม้กระถางที่สามารถปลูกได้ดีภายในบ้าน หรืออาจจะแขวนผนังด้วยกระถางกล้วยไม้ทรงสูง ก็ตกแต่งให้ผนังที่ว่างเปล่าแลดูสวยงามขึ้น
เพิ่มความมีระดับให้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือภายในห้องน้ำ
ส่วนพื้นที่ห้องน้ำที่เป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ หากปล่อยทิ้งไว้โล่งๆก็จะแลดูจืดชืดไม่น่าสนใจ แต่หากได้ตกแต่วด้วยแจกันหรือกระถางกล้วยไม้ที่มีกลีบดอกสวย ก็จะทำให้เกิดความสวยงามดูมีระดับขึ้นมาได้มาก ทั้งยังได้เงาสะท้อนจากกระจกบานใหญ่ช่วยให้เกิดภาพลักษณ์มุมมองที่น่าสนใจอีกด้วย
ส่วนของผนังหรือชั้นวางที่แบ่งกั้นพื้นที่จะไม่ดูแข็งกร้าวหรือดิบแข็งอีกต่อไป
อีกส่วนของพื้นที่ซึ่งน้อยคนนักจะให้ความใส่ใจในการตกแต่งคือส่วนของผนังกั้นพื้นที่ภายในบ้านหรือที่บริเวณชั้นวางของที่ตั้งอยู่กึ่งกลางห้อง ซึ่งอาจมีลักษณะเป็นแนวผนังเตี้ยๆทึบตันหรืออาจเป็นตู้เก็บของไม้ที่แลดูดิบแข็งไม่สดชื่นสายตา หากลองนำเอากระถางพืชขนาดเล็กหรือกล้วยไม้ทรงต้นเล็กกะทัดรัดไปประดับตกแต่งเรียงไปตามแนวผนังนั้น เมื่อกล้วยไม้ออกดอกก็จะทำให้ได้บรรยากาศที่สวยงามและคลายความทึบตันของผนังลงไปได้มากทีเดียว
ตกแต่งผนังด้วยแนวกระถางกล้วยไม้แบบไม่ซับซ้อน
ส่วนของผนังมุมไหนของบ้านที่ยังว่างอยู่และไม่รู้จะสรรหาอะไรมาประดับตกแต่งให้แลดูมีเรื่องราวหรือคลายความโล่งว่างนั้น ลองหาแผ่นไม้หนาๆสักชิ้นและนำเอากระถางไม้แขวนมา DIY ดัดแปลงเป็นเหมือนกรอบรูปมีชีวิตที่ภายในมีพืชพรรณกล้วยไม้เจริญเติบโตให้มุมมองสีเขียวและดอกสีสันสวยงามอย่างง่ายๆเช่นในภาพนี้
หรือจะแอดวานซ์ไปอีกขั้นด้วยการออกแบบผนังสีเขียวหรือสวนแนวตั้ง
หรืออย่างในกรณีนี้คือเป็นการออกแบบพื้นที่สีเขียวภายในบ้านที่มีความพิเศษต่างไปจากพื้นที่สีเขียวทั่วไปคือพื้นที่สีเขียวแนวตั้งซึ่งอาจครอบคลุมส่วนของผนังด้านใดด้านหนึ่งของพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกบ้าน ทั้งนี้การออกแบบสวนแนวตั้งนั้นจำต้องได้รับการวางระบบของท่อน้ำหรือแสงเป็นอย่างดีเพื่อให้พืชทุกส่วนของผนังเจริญเติบโตได้พร้อมๆกัน ซึ่งโดยมากแล้วนักออกแบบภูมิทัศน์หรือภูมิสถาปนิกจะเลือกใช้พืชล้มลุกหรือไม้เลื้อยที่มีใบสีสันสวยและกล้วยไม้เป็นส่วนตกแต่งที่ให้ความน่าสนใจด้วยกลีบดอกที่เป็นเอกลักษณ์